ประวัติ ของ จอห์นนี เดปป์

จอห์นนี เดปป์ เกิดที่เมืองโอเวนสโบโร รัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา มีเชื้อสายเยอรมัน อินเดียนแดง เชอโรกี ไอริช ไอริชเหนือ สกอตติช เวลช์ ฝรั่งเศส ดัตช์ เบลเยียม เยอรมัน แอฟริกา และจอห์นนี่ เดปป์ยังมีเชื้อสายของ Elizabeth Key Grinstead ซึ่งเป็นชาวแอฟริกาคนแรกที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพของตัวเองและถูกปลดจากการเป็นทาสของคนขาวได้ นอกจากนั้น ถ้าหากนับตระกูลของจอห์นนี่ เดปป์ขึ้นไปอีก 19 รุ่นจะพบว่าเขาสืบทอดเชื้อสายมาจาก Margaret Percy และ เซอร์ William Gascoigne ซึ่งมากาเร็ตเป็นลูกสาวของเอิร์ลแห่ง Northumberland ที่ 3 และสืบเชื้อสายโดยตรงมาจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ นั่นหมายถึงว่าเขามีทวดคนเดียวกันกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร

ชีวิตวัยเด็ก

จอห์นนี่ เดปป์ เกิดเวลา 8.44 น. วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2506 ในเมืองโอเว่นส์โบโร่ รัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา เป็นลูกชายคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 4 คนของ จอห์น คริสโตเฟอร์ เดปป์ ซีเนียร์ ซึ่งเป็นวิศวกรโยธา และ เบตตี้ ซู ปาล์มเมอร์ (นามสกุลเดิม เวลส์) ซึ่งมีอาชีพเป็นบริกรหญิง

ไฟล์:Childhood01.jpgจอห์นนี่ เดปป์ในวัยเด็ก

ส่วนพี่ชายและพี่สาวคนโตของเขาเป็นพี่น้องต่างพ่อ คือ

  • แดเนียล พี. เดปป์ (แดนนี่) ปัจจุบันใช้นามปากกาว่า DP และเป็นนักเขียนบทละคร
  • เดโบราห์ เจ. เดปป์ (เดบบี้) ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ Lexington และเป็นคุณครูในโรงเรียนประถม

และพี่สาวที่มีพ่อแม่เดียวกันคือ

  • เอลิซ่า คริสตี้ เดปป์ - เด็มโบรวสกี้ (คริสตี้) ปัจจุบันเธอทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัวของจอห์นนี่ เดปป์และเป็นประธานบริษัท Infinitum Nihil ของเขาด้วย

จอห์นนี่ เดปป์มีความพิการติดตัวมาตั้งแต่เกิด นั่นคือดวงตาข้างซ้ายของเขาเบลอจนมองอะไรไม่เห็นตั้งแต่เกิด แทบจะเรียกได้ว่าบอดสนิท แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของเขา ในวัยเด็ก เขาเป็นเด็กที่หลงใหลในการไล่จับแมลง วิ่งเล่นในไร่ยาสูบและชอบฟังนิทานจาก Paw Paw ซึ่งเป็นปู่ของเขา จนกระทั่งปู่ของเขาเสียชีวิตในตอนที่เขาอายุได้เพียง 7 ขวบ หลังจากนั้นครอบครัวของเขาก็ได้ย้ายไปที่เมือง Miramar รัฐ Florida และจอห์นนี่ก็ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน Miramar High School ครอบครัวเขาก็ต้องอาศัยอยู่ในโมเทลจนกระทั่งพ่อของเขาหางานที่มั่นคงได้นั่นคือเป็นหัวหน้าวิศวกรประจำเมือง แต่ครอบครัวเขาก็ยังคงต้องย้ายบ้านอยู่บ่อย ๆ โดยที่เขาเองก็ไม่ทราบสาเหตุ

การย้ายบ้านบ่อย ๆ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่มเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมแปลก ๆ เพราะความรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิต จอห์นนี่ใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างโลดโผน เขามีเรื่องชกต่อยกับเด็กคนอื่น ๆ อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงวีรกรรมที่ร่วมกันกับเพื่อนขุดอุโมงค์จากห้องนอนตัวเองมาเชื่อมกับสวนในบ้าน หรือแม้กระทั่งการอมน้ำมันไว้และพ่นไฟจนลุกไหม้บนหน้าตัวเองแต่โชคดีที่เพื่อน ๆ ของเขาช่วยกันดับไว้ทัน

แต่กิจกรรมโปรดของเขานอกจากเล่นผาดโผนก็คือการช่วยแม่ที่เป็นบริกรคิดเงินที่เคาธ์เตอร์ถึงแม้จะยังเป็นเด็กตัวเล็กและต้องนั่งตักแม่อยู่ตลอดเวลา และเมื่อถึงเวลาที่มีซีรีส์เรื่องโปรดฉายทางโทรทัศน์เขาก็จะรีบวิ่งกลับบ้านไปดูในทันที

ชีวิตของเขาในวัยเด็กเป็นชีวิตที่ไม่ได้มีเหตุการณ์สำคัญให้จดจำนัก จนกระทั่งพ่อและแม่ของเขาหย่าร้างกันในตอนที่เขาอายุ 15 ปี หลังจากนั้นไม่กี่ปีแม่ของเขาก็แต่งงานใหม่กับ โรเบิร์ต ปาล์มเมอร์

เริ่มเป็นนักดนตรี

เนื่องจากที่ลุงของเขาเป็นบาทหลวง ทำให้จอห์นนี่มีโอกาสเข้าโบสถ์อยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความศรัทธาในพระเจ้ามากนัก แต่สิ่งที่ทำให้เขาสนใจก็คือวงดนตรีที่เล่นในโบสถ์ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสนใจในดนตรี จนกระทั่งในตอนที่เขาอายุ 12 ขวบ จอห์นนี่ได้รับของขวัญเป็นกีต้าร์มือสองที่ซื้อต่อจากญาติของเขาในราคา 25 เหรียญ เขาเริ่มตั้งวงของตัวเอง วงดนตรีวงแรกของจอห์นนี่ชื่อว่า เฟลม ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการเล่นดนตรี รับจ้างเล่นดนตรีตามผับถึงแม้ว่าในตอนนั้นเขาจะยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าผับได้ และยังทดลองเสพยาเสพติดแทบทุกชนิด จนไม่สนใจการเรียน

จนกระทั่งอายุ 15 ปี จอห์นนี่ตัดสินใจที่จะกลับมาตั้งใจเรียนอีกครั้ง แต่พ่อแม่ของเขาก็หย่าร้างกัน ทำให้แม่ของเขาเป็นโรคซึมเศร้า ประกอบกับที่ครูที่โรงเรียนแนะนำให้เขากลับไปใช้ชีวิตตามความฝันที่อยากเป็นนักดนตรี จอห์นนี่จึงลาออกจากโรงเรียนและตัดสินใจตั้งวงดนตรีวงใหม่โดยใช้ชื่อว่าวง The Kids ประกอบกับการทำงานในปั๊มน้ำมันไปด้วย

The Kids ได้เล่นเป็นวงเปิดให้นักดนตรีชื่อดังหลายคนที่มาทัวร์คอนเสิร์ตอยู่ที่ Miramar จนทำให้เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาในเมืองนั้น จอห์นนี่และเพื่อนนักดนตรีของเขาจึงตัดสินใจเดินทางไป California และเมื่อไปถึงที่นั่นเขาก็เปลี่ยนชื่อวงเป็น Six Gun Method แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะไม่เข้าข้างเขา ทำให้จอห์นนี่ต้องหารายได้เสริมโดยการรับทำงานพิเศษไม่ว่าจะเป็นกรรมกร, พนักงานถ่ายเอกสาร, นักมวยสมัครเล่น และช่างซ่อมรถ